Anxious People
- haveyoureadbkk
- Jan 3, 2021
- 1 min read
Updated: Sep 30, 2021

คะแนน: ★★★★★
แปลไทย: (ไม่มี)
โอ้ยยย นี่แหละ คือหนังสือที่ดีที่สุดของปี 2020 อย่างแท้จริง! ไม่ต้องตั้งคำถามอะไรอีกแล้ว สุดปัง ปังว้อยย ทัชใจ ลึกซึ้งและใจดีกับหัวใจอันอ่อนล้าของมนุษย์ผู้เปลี่ยวดายในโลกที่กว้างใหญ่และเต็มไป
ด้วยความกังวลของชีวิต เหมือนได้กินของ อร่อย ๆ ในวันที่รู้สึกแย่ เป็นเรื่องดี ๆ ทำให้ยิ้มได้ ก่อนอื่นเลย ก็อยากขอบคุณตัวเองที่อ่านเรื่องนี้ ได้เรียนรู้เยอะมาก ยิ่งกว่าเรียนรู้เกี่ยวกับคนรอบข้าง คือได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองนี่แหละ มันคือสุดปัง โคตรของโคตรเดอะเบส
1.
ขึ้นชื่อว่าเป็นบัคมัน พลอตย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน หนังสือเล่มนี้อาจจะเป็นเรื่องการปล้นธนาคาร หรือระบบเฮงซวยที่ทำคนล้มละลาย หรือเรื่องของคนล้มละลายที่โดดลงมาจากสะพาน แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของสะพานหรือคนล้มละลาย(ขนาดนั้น) แต่อาจจะเป็นเรื่องของคนที่ไม่เพอร์เฟคและกังวลตลอดเวลาเพราะความเป็นใครสักคนของใครบางคน เป็นพ่อ เป็นลูก เป็นคนรัก เป็นโจร เป็นหมอ เป็นหมา หรือเรื่องนี้อาจจะเป็นแค่เรื่องของกลุ่มคนงี่เงาแถมยังประหลาด 555555 เออ น่าจะใช่
ในคืนก่อน New Year's Eve มีการปล้นเกิดขึ้น...แต่ดันเป็นการปล้นธนาคารไร้เงินสด (cashless bank) เรื่องราวเลยพลิกผันเป็นการจับตัวประกันแทน ซึ่งจับกันดื้อ ๆ ระหว่างกิจกรรม apartment viewing (อารมณ์เดินชมบ้านตัวอย่าง) ที่ตึกฝั่งตรงข้ามนี่แหละ เมื่อมีคนมาเกี่ยวข้องเยอะ ความวุ่นวายทั้งหลายเลยยิ่งทวีคูณ เมื่อเหตุการณ์สงบลงโจรปล้นธนาคารกลับหายตัวไปอีก! และปรากฏว่าตัวประกันไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับตำรวจสองพ่อลูกเท่าที่ควร !?! (เพราะปืนดูปลอม!) มันมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่านั้น หรือมันจะเป็นแค่เพราะทุกคนนิสัยประหลาด ๆ ชอบคิดเองเออเองกันแน่นะ
2. ประหลาดมั้ยไม่รู้ แต่ตัวละครในเรื่องแต่ละคนที่ยกขบวนกันมาทำให้คนอ่านปวดหัว ไม่ว่าจะเป็น คู่หูคุณตำรวจเจ้าของคดี ที่ต่างห่วงกันและกันจนงานยุ่งเหยิง หรือ ลอนดอน สาวธนาคารวัยยี่สิบที่ไม่ยี่หระกับอะไรเลยตามสไตล์ Gen Z คูลฮิป เอสเตล คุณยายวัย87ที่แสนใจดี และออกจะเจ้ากี้เจ้าการกับเรื่องต่าง ๆ มากไปหน่อยย นี่ยังไม่นับจูลส์กับโร คู่เลสเบี้ยนแต่งงานใหม่ที่กำลังจะมีน้อง และจูลส์ ผู้ซึ่งกำลังท้องแก่ ต้องมาคอยหงุดหงิดกับความมองโลกในแง่ดีมากกกเกินไปของคนรักตลอดเวลา แอนนาเลนากับโรเจอร์ คู่รักวัยเกษียณที่เห็นการเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างเป็นเกมกีฬา ต้องขัดขวางคู่ต่อสู้ทุกวิถีทาง ซาร่า นักวิเคราะห์การธนาคารที่โคตรขวางโลก เพื่อปิดบังเงามืดในหัวใจ ซึ่งคนเดียวในโลกที่เหมือนจะเห็นเงามืดนั้นคือคุณจิตแพทย์สาว ที่ไม่ยอมจ่ายยานอนหลับให้สักทีไม่ว่าซาร่าจะแดกดันหรือจิกกัดแค่ไหน ไปจนถึงตัวละครอีกมากมายที่จะท้าทายทุกการตัดสิน จนเมื่อปมทุกอย่างคลายลง เราอาจจะน้ำตาไหลไม่รู้ตัว เอาเป็นว่าตัวละครเยอะมาก แต่บอกเลยว่าถ้าอ่านจบจะหลงรักทุกคนหมดเลย! อเมซซิ่งเวอร์
3. พระเอกตัวจริงของเรื่อง น่าจะเป็นสำนวนการเขียน ซึ่งเป็นสไตล์ที่แฟน ๆ น่าจะคุ้นเคยกันดี นั่นคือแดกดันอย่างมีชั้นเชิง เป็นตลกสะอื้นชวนให้ใจบางในหลายๆช่วง เราชอบการสร้างตัวละครของบัคมันมากๆ มีมิติที่เริ่มขึ้นแบบผิวเผิน ก่อนที่เราจะเริ่มเข้าใจหัวจิตหัวใจของแต่ละคนมากขึ้นไปเรื่อยๆ ไปพร้อมๆกับปมหลักที่คลี่คลายไปควบคู่กัน ที่สำคัญคือมันเหมือนเป็นกลไกที่ทำให้เราย้อนกลับมาดูโลกในแบบของเราเองอย่างไม่รู้ตัว...เรารักการนำเสนอความเศร้า และ personal struggles ในแบบของบัคมันมากๆ ปัญหามันทั้งเรียล และมีความเป็นมนุษย์สุดๆ 4.
อีกหนึ่งสิ่งที่เราค่อนข้างเอนจอย คือมุมมองแนวคิดแบบสแกนดิเนเวียน ที่เราสัมผัสได้จากเรื่องราว (เอาจริงก็คือทุกเล่มของบัคมัน) มาก แม้จะเป็นรัฐสวัสดิการที่ทุกคนมีชีวิตดี แต่ท้ายที่สุดมันก็ไม่มีวันครอบคลุมได้หมดทุกความกังวลหรอก ทุกอย่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น แต่เราตื่นตาตื่นใจไปกับสวัสดิการพื้นฐานของคนสวีเดนอะ ทั้งการที่มี cashless bank ทั้งระบบรักษาพยาบาลต่าง ๆ ระบบการศึกษาที่เราเรียนรู้จากบทสนทนาของตัวละคร ทำให้รู้สึกอิจฉามาก ๆ
นอกจากนี้ ตัวละครยังพูดถึงชีวิตในโลกร่วมสมัยที่ทุกคนใส่ใจสิ่งแวดล้อม และประเด็น climate change อย่างเป็นธรรมชาติ และมีนัยยะสำคัญ (บางตัวละครเป็นวีแกน และไม่อยากมีลูกเพราะปัญหา climate change) ชอบมากกับแนวคิดของชาติที่เจริญแล้ว เหมือนปัจจับพืนฐานได้รับการดูแลหมดแล้ว เรื่องทั่วไปที่คนคุยกันในชีวิตประจำวันจึงเป็นประเด็นปัญหาที่อาจจะยังดูไกลตัวสำหรับคนส่วนใหญ่ ในประเทศกำลังพัฒนาแบบเรา ๆ
5.
ต้องเตือนก่อนว่า ช่วง50-70 หน้าแรกอาจจะต้องเพ่งสมาธิอ่านกันหน่อย เพราะเปิดมาแบบซับซ้อน ต้องค่อยๆทำความคุ้นชินกับเนื้อหาไปเรื่อยๆด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ด้วยความซับซ้อนของเนื้อหาไม่ต่างจากจิตใจคน (เพราะเล่มนี้เป็นหนังสือแนว character-driven) โดยรวมๆนี่อาจจะเป็นข้อเสียเดียวของเล่มนี้ คือเปิดเรื่องมายืดมาก และต้องใช้เวลาสักพักใหญ่ๆทีเดียว กว่าจะจูนอารมณ์ติด แต่มันคุ้มค่านะ ลึกซึ้งกินใจ แตะทุกประเด็นของความสัมพันธ์ ความรักและเข้าใจ ในโลกที่คาดหวังให้เราไม่พยายามเข้าใจกับอะไรเลย เตือนก่อนว่าพลอตทวิสต์หักมุมเยอะมาก หักจนเหนื่อย 555 แถมตอนสุดท้ายปมปัญหาคลี่คลายแล้วดันยืดเรื่องอีก ส่วนตัวเราคิดว่าเล่มนี้ตัดออกสัก 30-40 หน้า อาจจะกระชับกว่านี้
แต่ก็นั่นแหละ เมื่อค่ำคืนนี้จบลง ทุกคนจะได้ค้นพบว่า หัวใจมนุษย์ช่างยิ่งใหญ่ แม้โลกจะโหดร้ายและเต็มไปด้วยความเศร้า แต่สุดท้ายเราอาจจะแค่อยากได้ใครสักคนที่ใส่ใจเรามากพอ ที่จะไม่ยอมจ่ายยานอนหลับให้เพราะกลัวเอาไปฆ่าตัวตาย หรือชวนสาวธนาคารไปกินกาแฟสักแก้วเพราะมองลึกไปถึงว่าความไม่ยี่หระคือสัญญาณของความว้าเหว่ หรือคู่รักเกษียณนั้นเล่า จะมีใครมองออกมั้ยว่าภายใต้ความอยากเอาชนะคือคนแก่ที่กังวลว่าตัวเองจะกลายเป็นเพียงคนไร้ประโยชน์ในสังคม หรืออย่างน้อยที่สุด ลองมองไปที่ใบหน้าของโจรปล้นธนาคารที่หมวกไอ้โม่งเปียกเปรอะไปด้วยน้ำตานั่นสิ เขากำลังปล้นไปร้องไห้ไปอยู่นะ ...
6.
สรุป อ่านเถอะ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและคุ้มค่าประสบการณ์การอ่านอย่างแน่นอน ไม่มีอะไรจะต้องอวยอีกแล้ว บอกได้เต็มปากว่าบัคมัน คือสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับวงการหนังสือร่วมสมัย ทัชใจจนน้ำตาริน อ่านจบจะรู้สึกเหมือนหนังสือกอดเราจนอุ่นเป็นไมโครเวฟ ต้องอยากแบ่งปันความรู้สึกดีๆ และหันไปกอดคนข้างกายแน่นๆ อย่างแน่นอน
Comments