The Vegetarian
- haveyoureadbkk
- May 1, 2017
- 1 min read

คะแนน: ★★★☆☆
แปลไทย: (ไม่มี)
มีคำถามเกิดขึ้นภายในใจ เป็นหมื่นล้านคำมากๆ
“It called to mind something ancient, something pre-evolutionary, or else perhaps a mark of photosynthesis, and he realized to his surprise that there was nothing at all sexual about it; it was more vegetal than sexual.”
The Vegetarian ของ Han Kang ผู้ชนะรางวัล Man Booker International Prize ปี 2016 เล่มนี้เป็นที่กล่าวขานในวงการมานาน น่าจะเพราะความแปลกประหลาดของทั้งพลอต ตัวละคร และการดำเนินเรื่อง เรื่องมันเริ่มขึ้นเพราะ Yeoung-hye ตัดสินใจผันตัวไปเป็นมังสวิรัติ ณ ชั่วข้ามคืนหนึ่ง ซึ่งมันก็จะไม่แปลกอะไรถ้าสังคมเกาหลีใต้ (และโดยเฉพาะครอบครัวของ Yeoung-hye) ไม่ได้ประกอบขึ้นจากสุดยอดแฟนพันธุ์แท้คนรักเนื้อ การเปลี่ยนแปลงด้านการกินอย่างสุดโต่ง นำมาซึ่งคำถามมากมาย และหากมองลึกลงไป สะท้อนให้เห็นนัยยะหลายอย่างในบริบททางสังคม สภาวะทางอารมณ์ และอัตลักษณ์
หลังสือแบ่งเป็นเรื่องสั้นทั้งหมดสามตอน (ซึ่งเคยตีพิพม์แยกเป็นเรื่องสั้นมาก่อนสามเรื่อง) แต่ละตอนแม้จะโฟกัสที่ตัวละครต่างกัน แต่ล้วนต่างมีจุดเริ่มต้นเดียวกัน ซึ่งคือวันที่ Yeoung-hye ตัดสินใจที่จะไม่กินเนื้อ เมื่อมาอ่านรวมกันก็พอจะเป็นภาพอันเรือนรางของความบ้าคลั่งบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้น
เรื่องแรกเป็นเรื่อง Yeoung-hye ผ่านสายตาของคุณ Cheong สามีของเธอ เขาเล่าถึงสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเลือก Yeoung-hye มาเป็นภรรยา นั่นคือการที่เธอเป็นคนธรรมดาที่แสนจะน่าเบื่อและไม่มีอะไรพิเศษ เป็นผู้หญิงทั่วไปที่จืดชืด ซึ่งทั้งหมดเปลี่ยนไป เมื่อเธอฝันถึงความชั่วร้ายบางอย่าง และตัดสินใจที่จะเลิกกินเนื้อ เธอต่อต้านแรงกดดันรอบตัว และไม่สั่นไหวต่อความกระอักกระอ่วนที่ก่อตัวขึ้นท่ามกลางสังคมรอบตัวแม้แต่น้อย สำหรับครอบครัว การไม่กินเนื้อคือความล้มเหลวในฐานะบุคคลที่นำความเสื่อมเสียมาสู่วงตระกูล (คือมันไปสุดมาก) แต่แม้กระทั่งถึงคราวแตกหักขั้นที่ Yeoung-hye พยายามฆ่าตัวตายหลังจากที่โดนพ่อแท้ๆของตัวเองทำร้ายด้วยการยัดเยียดให้กินเนื้อ Yeoung-hye ยังต่อสู้เงียบๆในแบบของเธอ เช่นการไม่ใส่เสื้อชั้นใน และเริ่มเปลื้องผ้าในที่สาธารณะ สำหรับ Mr.Cheoung ผู้เป็นสามี เขารับตัวตนอีกด้านของภรรยาที่แสนจะวิปลาศแบบนี้ไม่ได้เลย
“the sight of her lying there utterly without resistance, yet armored by the power of her own renunciation, was so intense as to bring tears to his eyes.
เรื่องที่สองเล่าผ่านมุมมองของพี่เขยของ Yeoung-hye ผู้เป็นศิลปินแนว avant-garde และแอบหลงใหลในตัวตนของ Yeoung-hye อยู่ลับๆ (เช่นการแอบหมกมุ่นกับปานที่บั้นท้ายของเธอ จนเอามาละเมอเพ้อพกเป็นตุเป็นตะ) เขาเริ่มเสนอให้เธอก้าวข้ามขีดจำกัดมากขึ้นเรื่อยๆในฐานะนางแบบสำหรับงานศิลป์ชิ้นต่อไปของเขา ที่เลยเถิดไปถึงการเปลื้องผ้าและวาดรูปดอกไม้ทั่วเรือนร่าง จนถึงขั้นทาบทามให้เพื่อนที่เป็นศิลปินด้วยว่ามามีซัมติงกับเธอในรูปแบบของ performance art ซึ่งปรากฏว่าการวาดรูปต้นไม้บนร่างของ Yeoung-hye (และอื่นๆที่พอเดาได้เหล่านั้น) กลับกลายเป็นการปลุกสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในใจของเธอ อย่างเหนือความคาดหมาย....เพราะมันทำให้เธอคิดไปว่าตัวเองกำลังกลายร่างเป็นต้นไม้
“I was convinced that there was more going on here than a simple case of vegetarianism.”
เรื่องสุดท้ายเล่าผ่านมุมมองของ In-hye พีสาวแท้ๆของ Yeoung-hye และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในศูนย์ดูแลผู้ป่วยทางจิต เมื่อเรื่องดำเนินมาถึงองค์นี้ Yeoung-hye อาจจะไม่ได้เป็นมังสะวิรัติแล้ว แต่เธอกำลังสู้กับปีศาจในใจตัวใหม่ที่มาในคราบของโรคอนอเร็กเซีย นอกจากนี้ยังชอบออกไปเดินแก้ผ้ากลางแจ้งเพราะเชื่อว่าตัวเองสามารถสังเคราะห์แสงได้ การที่ต้องเปลี่ยนบทบาทจากพี่สาวมาเป็นผู้ดูแลหลักของน้อง ทำให้ In-hye ได้ตกผลึกกับชีวิตตัวเอง เพื่อค้นพบว่าที่ผ่านมาเธอใช้ชีวิตตามครรลองของคนรอบข้างมาตลอด...
หนังสือเข้าไปแตะหลายประเด็นมาก และบางส่วนมีความเป็นคาฟคา (Kafkaesque) พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นประเด็นที่ตัวเอกกลายเป็นสิ่งทีแปลกประหลาดน่ารังเกียจของสังคม ในขณะเดียวกันจิตใจภายในก็กำลังล่มสลาย และดับสูญไปอย่างเนิบช้า (เป็นลูกผสมระหว่าง The Metamorphosis กับ The Hunger Artist) แถมยังมีการเข้าไปจับเรื่องของการทำงานศิลปะและความเป็นอีโรติก ในสังคมที่ยึดติดกับขนอบและความเป็นอนุรักษ์นิยม
แน่นอนว่า feminism ก็เป็นอีกประเด็นที่เราจับได้แน่นเลย การที่ Yeoung-hye เลือกเป็นมังสะวิรัติ คงเปรียบกับผู้หญิงตัดสินใจใช้ชีวิตตามทางเลือกที่แหวกขนบต่างๆ และนั่นเป็นสิ่งที่มาพร้อมกับแรงตีกลับอย่างมหาศาลจากสังคมที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยมและเป็นปิตาธิปไตย (เช่น รีแอคชั่นจากพ่อและสามีของเธอ ที่ไม่พยายามจะทำความเข้าใจอะไรบ้างเลย และมักจะจบด้วยการใช้ความรุนแรงอยู่เสมอ)
บางช่วงบรรยายอย่างเห็นภาพจนรู้สึกได้ถึงความ intense โดยเฉพาะตรงเรื่องที่สอง เพราะมีเรื่องเพศมาเกี่ยวด้วยรึเปล่าไม่รู้ แต่ sexual tension ระหว่างตัวละครมันทั้งวิตถารและบีบคั้นคนอ่านมาก เหมือนความโหยหามันไหลออกมาจากหนังสือเลยอะ 5555 แต่ฉากที่บีบคั้นอื่นๆ ก็อารมณ์ประมาณเดียวกัน โดยเฉพาะฉากครอบครัวที่ทะเลาะกันในบ้าน มีความ k-drama มากๆตรงที่ตะโกนใส่กันล้งเล้ง และ"เล่นใหญ่" ตีอกชกหัวใส่กันสุดๆ มันเหวอเพราะตัวละครมุ่งเข้าหาความรุนแรงอย่างคาดไม่ถึง
สรุปคือ เล่มนี้เป็นความยาว 180กว่าหน้า ที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ ทั้งความไม่เข้าใจกันและกันระหว่างตัวละคร และความไม่เข้าใจระหว่างคนอ่านกับเจตนาในใจที่แท้จริงของ Yeoung-hye นี่แหละ 555 เรื่องราวมันอึดอัด ดำมืด แต่แก่นแท้ของเรื่องมันยังไม่เข้มข้นมากพอที่จะทำให้เราเข้าอกเข้าใจอะไรมากมายขนาดนั้น มีเรื่องให้อิหยังวะเยอะไปหมด จนต้องพยายามตีความสัญญะอะไรสักอย่างอยู่ตลอดเวลา
Comments